วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โปรเจคไทล์



การเคลื่อนแบบโปรเจคไทล์


ลักษณะการเคลื่อนที่แบบโปรเจกไทล์

        การเคลื่อน ที่แบบโปรเจกไทล์ เป็นการเคลื่อนที่ 2 แนวพร้อมกัน คือ แนวระดับ และแนวดิ่ง ซึ่งพบว่า ความเร็วในแนวระดับ ไม่มีผลต่อการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง โดยจากการทดลองปล่อยวัตถุให้ตกอย่างอิสระ พร้อมกับวัตถุที่ถูกดีดออกไปในแนวระดับ พบว่า เมื่อใช้แรงมากวัตถุที่ถูกดีดจะตกไกล แต่ตกถึงพื้นพร้อมกับวัตถุที่ตกในแนวดิ่ง แสดงว่า การเคลื่อนที่ในแนวระดับไม่มีผลต่อการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง ดังนั้นเราจึงแยกพิจารณาการเคลื่อนที่ออกเป็น 2 แนว คือ ในแนวดิ่ง และในแนวระดับ

  1. เป็นการเคลื่อนที่ของวัตถุอย่างอิสระ โดยมีแรงกระทำเนื่องจากแรงดึงดูดของโลก(mg)เพียงแรงเดียว
  2. การเคลื่อนที่ในแนวราบจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ เนื่องจากไม่มีแรงกระทำในแนวราบความเร่งในแนวราบเป็น 0
  3. มีการเคลื่อนที่ในแนวราบและแนวดิ่งพร้อมๆกัน
  4. เวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่แนวราบกับแนวดิ่งมีค่าเท่ากันและเท่ากับเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของโปรเจคไทล์
  5. การเคลื่อนที่ในแนวราบจะไม่มีแรงกระทำ 

  จากรูปเมื่อเราพิจารณาการเคลื่อนที่ของวัตถุทั้งสองพบว่า
1.   วัตถุตกในแนวดิ่ง จะมีการกระจัดในแนวดิ่งเพียงแนวเดียว(Sy)แต่วัตถุที่ถูกดีดออกมา      จะมีการกระจัดทั้งในแนวดิ่งและแนวระดับ(Sy,Sx)
2.   เมื่อล่อยและดีดออกมา พร้อมๆกันวัตถุทั้งสองจะถึงพื้นพร้อมกัน
3.   จะมีแรงกระทำเพียงแรงเดียวคือ แรงดึงดูดของโลก (mg)จะไม่คิดแรงต้านของ  
      อากาศ  ทำให้วัตถุทั้งสองมีความเร่งในแนวดิ่งเท่านั้น คือ ความเร่งโน้มถ่วง (g)
4.   การเคลื่อนที่ในแนวระดับและแนวดิ่งเป็นอิสระต่อกัน (ไม่มีผลลัพธ์ต่อกัน) ดังนั้นเมื่อ  
     ทำการพิจารณาโจยท์ปัณหาที่เกียวดีบการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์จะพิจารณาที่ละ     แนว



การเคลื่อนที่ในแนวระดับ

    เนื่องจากในการเคลื่อนที่โปรเจคไทล์จะมีเพียงแรงดึงดูดของโลก กระทำเพียงแรงเดียวในแนวดิ่ง ดังนั้น จึงสรุปลักษณะการเคลื่อนที่ในแนวระดับได้ดังนี้
       จากกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน เราพบว่า เมื่อไม่มีแรงลัพธ์มากระทำต่อวัตถุ วัตถุจะรักษาสภาพการเคลื่อนที่ให้คงที่ ผลคือ วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่  («math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«msub»«mi»u«/mi»«mi»x«/mi»«/msub»«mo»=«/mo»«msub»«mi»v«/mi»«mi»x«/mi»«/msub»«/math»)
ดังนั้น การเคลื่อนที่ในแนวระดับของการเคลื่อนที่แบบโปรเจกไทล์ สามารถหาการกระจัดในแนวระดับได้ตามสมการ 
«math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«msub»«mi»s«/mi»«mi»x«/mi»«/msub»«mo»=«/mo»«msub»«mi»u«/mi»«mi»x«/mi»«/msub»«mi»t«/mi»«/math»
                                                                         
   เมื่อ              Sx  =  การกระจัดในแนวระดับ( m )
                      ux  =  ความเร็วในแนวระดับ (m/s)
                       t   =  ช่วงเวลาของการเคลื่อนที(s)


การเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง
      
         เมื่อพิจารณาการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง พบว่า วัตถุมีแรงกระทำในแนวดิ่ง คือ แรงโน้มถ่วงของโลก «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mi»m«/mi»«mover accent=¨true¨»«mi»g«/mi»«mo»§#8594;«/mo»«/mover»«/math»  ดังนั้น วัตถุเคลื่อนที่ในแนวดิ่งด้วยความเร่ง ay ซึ่งมีค่าเท่ากับ «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mover accent=¨true¨»«mi»g«/mi»«mo»§#8594;«/mo»«/mover»«/math» ความเร่งเนื่องจากความโน้มถ่วงของโลก

         การเคลื่อนที่ของวัตถุแบบโปรเจกไทล์ในแนวดิ่ง เหมือนวัตถุที่ตกอย่างอิสระทุกประการ ซึ่งสมการการเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวดิ่ง คือ

          ความเร็ว        «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«msub»«mi»v«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mo»=«/mo»«msub»«mi»u«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mo»+«/mo»«msub»«mi»a«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mi»t«/mi»«/math»
                             «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«msubsup»«mi»v«/mi»«mi»y«/mi»«mn»2«/mn»«/msubsup»«mo»=«/mo»«msubsup»«mi»u«/mi»«mi»y«/mi»«mn»2«/mn»«/msubsup»«mo»+«/mo»«mn»2«/mn»«msub»«mi»a«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«msub»«mi»s«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«/math»
        การกระจัด      «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«msub»«mi»s«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mo»=«/mo»«msub»«mi»u«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mi»t«/mi»«mo»+«/mo»«mfrac»«mn»1«/mn»«mn»2«/mn»«/mfrac»«msub»«mi»a«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«msup»«mi»t«/mi»«mn»2«/mn»«/msup»«/math»
                            «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mtable columnalign=¨left¨ rowspacing=¨0¨»«mtr»«mtd»«msub»«mi»s«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mo»=«/mo»«msub»«mi»v«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mi»t«/mi»«mo»-«/mo»«mfrac»«mn»1«/mn»«mn»2«/mn»«/mfrac»«msub»«mi»a«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«msup»«mi»t«/mi»«mn»2«/mn»«/msup»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«msub»«mi»s«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mo»=«/mo»«mfrac»«mrow»«mo»(«/mo»«msub»«mi»u«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mo»+«/mo»«msub»«mi»v«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mo»)«/mo»«/mrow»«mn»2«/mn»«/mfrac»«mi»t«/mi»«/mtd»«/mtr»«/mtable»«/math»


 สรุปการเคลื่อนที่แบบโปรเจกไทล์
   1. วัตถุเคลื่อนที่อย่างอิสระ มีแรงดึงดูดของโลก «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mi»m«/mi»«mover accent=¨true¨»«mi»g«/mi»«mo»§#8594;«/mo»«/mover»«/math» กระทำเพียงแรงเดียว
   2. วัตถุต้องมีความเร็วต้นในแนวระดับ («math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«msub»«mover accent=¨true¨»«mi»u«/mi»«mo»§#8594;«/mo»«/mover»«mi»x«/mi»«/msub»«/math») ส่วนในแนวดิ่ง («math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«msub»«mover accent=¨true¨»«mi»u«/mi»«mo»§#8594;«/mo»«/mover»«mi»y«/mi»«/msub»«/math») จะมีหรือไม่ก็ได้ โดย ความเร็วใน 
       แนวระดับคงที่เสมอ

   3. เวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ในแนวระดับ เท่ากับ ในแนวดิ่ง
  
   4. การพิจารณาปริมาณในแนวดิ่ง ปริมาณที่มีทิศตรงข้ามกับความเร็วต้น («math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mover accent=¨true¨»«mi»u«/mi»«mo»§#8594;«/mo»«/mover»«/math») ให้มีเครื่องหมายติดลบ 
      เช่น การขว้างวัตถุขึ้นในแนวดิ่ง พบว่า «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«msub»«mover accent=¨true¨»«mi»a«/mi»«mo»§#8594;«/mo»«/mover»«mi»y«/mi»«/msub»«mo»=«/mo»«mo»-«/mo»«mover accent=¨true¨»«mi»g«/mi»«mo»§#8594;«/mo»«/mover»«/math» เป็นต้น
   5. การคำนวณปริมาณต่างในการเคลื่อนที่ ใช้สมการการเคลื่อนที่เหมือนการเคลื่อนที่ในแนวตรง 

      แต่แยกพิจารณาในแนวดิ่ง (ความเร็วคงที่) และในแนวระดับ (การตกอย่างอิสระ)

วิดีโอตัวอย่างการเคลื่อนที่แบบโปรแจ็คไทล์







โจทย์ปัญหาการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์


1)  ขว้างก้อนหินมวล0.5กิโลกรัม ด้วยความเร็ว 10m/s จากหน้าผาสูง จากระดับน้ำทะเล 50m ความเร็วของก้อนหินขณะที่กระทบน้ำมีค่าเท่าใด (กำหนดให้ g = 10m/s)
 
เฉลย
 
1)  วิธีทำ   



2)  แผ่นตัวนำคู่ขนานคู่หนึ่งมีขนาดยาว l มีระยะห่างกัน d  ก่อให้เกิดสนามไฟฟ้าที่มีความเข้มสม่ำเสมอ โดยมีความต่างศักย์ระหว่างแผ่นเป็น v ถ้า สนามไฟฟ้าทำให้อิเล็กตรอนซึ่งเคลื่อนที่เข้าสู่กลางแผ่นคู่ขนานเบนไปถึงขอบ ล่างพอดีดังรูป ความเร็วต้นของอิเล็กตรอนจะเป็นเท่าใด(ให้อิเล็กตรอนมีมวล m และประจุไฟฟ้า e )
 

2) วิธีทำ
            
  จากสูตร 
                   แนวดิ่ง    
            แนวราบ  
ความเร็วของอิเล็กตรอนเท่ากับ
 


3)  ยิงปืนใหญ่ด้วยความเร็วต้น 100m/s ทำมุม 45 องศากับแนวราบไปยังรถถังข้าศึกที่กำลังแล่นตรงเข้ามาด้วยความเร็วคงที่ และขณะนั้นอยู่ห่างออกไปเป็นระยะ1200 m ถ้ากระสุนปืนกระทบเป้าหมายพอดี จงหาว่ารถถังข้าศึกกำลังแล่นด้วยความเร็วเท่าใด ก่อนจะถูกทำลาย
 
วิธีทำ
               หา t จากสูตร
               คิดลูกปืน       
               จากสูตร    
    ความเร็วรถถังกำลังแล่นด้วยความเร็ว 14.14 m/s





 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น