วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิค

การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิค


(Simple Harmonic Motion)

  การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิค หรือที่เรียกว่าการเคลื่อนที่แบบ S.H.M เป็นลักษณะการเคลื่อนที่แบบกลับไปกลับมา  เช่นการสั่นของสปริง การแกว่งของชิงช้า   หรือลูกตุ้มนาฬิกา เป็นต้น








         พิจารณาการเคลื่อนที่แบบวงกลมสัมพันธ์กับการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิค (S.H.M)
 

                        

                                                           (ก)                                                           (ข)



               จากภาพจะเห็นว่าเมื่อวัตถุสีเหลืองเคลื่อนที่เป็นวงกลม  เงาของวัตถุบนฉากจะเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงกลับไป   กลับมา เรียกการเคลื่อนที่แบบซ้ำรอยเดิมนี้ว่า การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิก (Simple Harmonic Motion)  หรือ   การเคลื่อนที่แบบ S.H.M


ความสัมพันธ์ระหว่างการกระจัดกับเวลาของการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิค
         ให้มวล    เคลื่อนที่ในแนวระนาบ     เป็นวงกลมรัศมี    ด้วยอัตราเชิงเส้นมุม(  ) รอบจุดศูนย์กลาง  เมื่อวัตถุเคลื่อนที่ได้คือ  ซึ่ง  
              
         พิจารณามวล   ที่เคลื่อนที่เป็นวงกลม เงาที่ปรากฎในแนวแกน และแกน   จะเคลื่อนที่แบบ ซิมเปิลฮาร์โมนิค หรือ แบบ S.H.M

               
        
                            
         จะได้การกระจัดในแนวแกนY  ดังนี้



       เมื่อนำ ไปเขียนกราฟการกระจัด-เวลา ของการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิค จะได้กราฟดังนี้



         
                


  •  จากสมการ  
  •  เมื่อ  
  • ค่าของการกระจัดของการเคลื่นอที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิคจะมีค่ามากที่สุด                              นั่นคือ    หรือ  

ความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับเวลาของการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิค

          ให้มวล  m  เคลื่อนที่ในแนวระนาบ    เป็นวงกลมรัศมี  R  ด้วยอัตราเชิงเส้นมุม(  ) รอบจุดศูนย์กลางเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ได้คือ R    พิจารณามวล  m   ที่เคลื่อนที่เป็นวงกลม เงาที่ปรากฎในแนวแกน x  และแกน  y   จะเคลื่อนที่แบบ ซิมเปิลฮาร์โมนิค หรือ แบบ S.H.M



 


        ณ เวลา  t    มวล  m  มีการเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว  Vo   ซึ่งสามารถแตกให้อยู่ในองค์ประกอบของการเคลื่อนที่ในแนวแกน  y       ได้ดังนี้

                                                          
               จาก
                      

      
         เมื่อนำสมการ           ไปเขียนกราฟระหว่างความเร็ว-เวลาของการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิคจะได้กราฟ (ดังรูป)



 img2.gif


                                       ค่าความเร็วของS.H.M  มีค่ามากที่สุด       
       
                                                    
         


ความสัมพันธ์ระหว่างความเร่งกับเวลาของการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิค
  
            เมื่อมวลเคลื่อนที่เป็นวงกลมรัศมี  R จะมีความเร่งเข้าสู่ศูนย์กลาง  แตกความเร่งให้อยู่ในแนวแกน XY ซึ่งจะเป็นความเร่งของการเคลื่อนที่แบบ S.H.M



  

   

พิจารณาความเร่งในแนวแกน Y



  

         เมื่อนำสมการ     ไปเขียนกราฟระหว่างความเร็ว-เวลาของการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิคจะได้






การเคลื่อนที่ของมวลที่ติดปลายสปริง

Simple Harmonic in Spring   

  
                

              เมื่อสปริงถูกยืดออกมาจากตำแหน่งสมดุล เป็นระยะกระจัด X เมื่อปล่อยมวล m จะถูกดึงกลับด้วยแรงนำกลับ  F = -kx    (ตามกฏของฮุค) มีเครื่องหมายเป็นลบ เพราะแรงมีทิศสวนทางกับการกระจัด

จากกฏข้อที่ 2ของนิวตัน                        F =  ma                  .......................(1)
จากกฏของฮุค                                    F  =  -kx                    .........................(2)


(1) = (2)                                                        a  =  -kx/m
a  =  ความเร่ง 

  




ซิมเปิลฮาร์โมนิคในเส้นเชือก  


        
        
         





                             
                                

         




วีดีโอการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิค







โจทย์ปัญหา

1. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิก
ก. ทิศของความเร่งเข้าสู่จุดสมดุลตลอดเวลา
ข. แรงที่ทำให้วัตถุเคลื่อนที่แปรตามการกระจัด
ค. มีความเร็วสูงสุด ณ จุดสมดุล
ง. คาบของการเคลื่อนที่ขึ้นอยู่กับแอมปลิจูด

เฉลย ข.


2.ในการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิก ข้อความในข้อใดผิด
ก. วัตถุมีความเร่งแปรผันตรงกับการกระจัด แต่ความเร็วเป็นศูนย์เมื่อมีการกระจัดมากสุด โดยมีแอมปลิจูดคงที่
ข. วัตถุมีความเร็วมากที่สุด เมื่อการกระจัดและความเร่งเป็นศูนย์
ค. เฟสของการกระจัดและความเร่งต่างกัน เรเดียน
ง. แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุมีทิศตรงกันข้ามกับการกระจัดของวัตถุจากตำแหน่ง สมดุล

เฉลย ค.

3. ข้อความต่อไปนี้ ข้อใดถูกต้องสำหรับการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิก
1. เมื่อวัตถุมีการกระจัดมากที่สุด ความเร่งวัตถุจะมีค่าน้อยที่สุด
2. แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุมีค่ามากที่สุด เมื่อวัตถุมีอัตราเร็วน้อยที่สุด
3. ถ้าแอมปลิจูดของการสั่นลดลง ความถี่ของการสั่นจะสูงขึ้น
4. ถ้ามวลของวัตถุมีค่ามากขึ้น คาบของวัตถุก็มากขึ้นด้วย
ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3 ค. 2 และ 4 ง. 1 และ 4

เฉลย ง.


4. มวลผูกติดกับสปริงเบาแล้วดึงให้สปริงยืดออก 5 cm แล้วปล่อยให้สั่นแบบซิมเปิลฮาร์โมนิก ด้วยความถี่ 10 rad/s จงหาว่าเมื่อมวลเคลื่อนที่ผ่านจุดสมดุล มวลจะมีอัตราเร็วเชิงเส้นเท่าใด
ก. 0.5 m/s ข. 3.14 m/s ค.6.28 m/s ง. 5. m/s

เฉลย ค.


5. แขวนมวล 30 กรัม ติดกับปลายสปริงเบาที่มีค่านิจสปริง (k) = 100 N/m เมื่อดึงมวลออกมาให้ห่างจาก สมดุล 20 cm แล้วปล่อยให้แกว่งแบบฮาร์โมนิก จงหา ความถี่เชิงมุมของการสั่น
ก. 0.57 rad/s ข. 1.82 rad/s ค. 18.2 rad/s ง. 57.7 rad/s

เฉลย ง.


6.วัตถุหนึ่งสั่นแบบซิมเปิลฮาร์โมนิกด้วยความ ถี่ 70 Hz และอัมปลิจูด 0.03 cm จงหาความเร่งสูงสุด และอัตราเร็วสูงสุดของวัตถุนี้
ก. 58.03 m/s2 ; 0.132 m/s ข. 49.39 m/s2 ; 0.132 m/s
ค. 58.03 m/s2 ; 0.341 m/s ง. 49.39 m/s2 ; 0.341 m/s

เฉลย ข.


7. จงคำนวณหาความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วง (g) ณ ตำแหน่งซึ่งนาฬิกาลูกตุ้มยาว 150.3 cm แกว่งครบ 100 รอบในเวลา 246.7 s
ก. g = 9.75 m/s2 ข. g = 9.81 m/s2
ค. g = 9.98 m/s2 ง. g = 10.2 m/s2

เฉลย ข.


8. นาฬิกาโบราณเรือนหนึ่ง อาศัยหลักการแกว่งของลูกตุ้มนาฬิกาเป็นเครื่องบอกเวลา ถ้านำนาฬิกาเรือนนี้ ไปไว้ที่ดวงจันทร์ ซึ่งพบว่า ความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์มีค่าเป็น 1/6 เท่าของความเร่งเนื่องจาก แรงโน้มถ่วงของโลก จงหาว่า นาฬิกาจะตีบอกเวลา 1 ชั่วโมง จะต้องใช้เวลาจริงๆ เท่าไร
ก. 1 ชั่วโมงเท่าเดิม ข. 1.45 ชั่วโมง ค. 2 ชั่วโมง ง. 2.45 ชั่วโมง

เฉลย ง.








การเคลื่อนที่แบบวงกลม


วัตถุที่เคลื่อนที่เป็นวงกลม บนระนาบใดๆ อัตราเร็วขณะใดขณะหนึ่งของวัตถุจะคงที่หรือไม่ก็ได้ แต่ความเร็วของวัตถุไม่คงที่แน่นอน เนื่องจากว่ามีการเปลี่ยนทิศาทางของการเคลื่อนที่ ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อวัตถุที่มีการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่แสดงว่า วัตถุนี้ต้องมีองค์ประกอบของแรงมากระทำในทิศทางที่ตั้งฉากกับเส้นทางการเคลื่อนที่ด้วย และกรณีที่การเคลื่อนที่มีอัตราเร็วไม่คงที่ แสดงว่าต้องมีองค์ประกอบของแรงในทิศทางที่ขนานกับแนวการเคลื่อนที่ด้วย พิจารณา รูป




 



    การเคลื่อนที่แบบวงกลมจัดเป็นหนึ่งในการเคลื่อนที่แบบ 2 มิติ ในการเคลื่อนที่เป็นวงกลมที่ 
 จะทำการศึกษานั้น ความเร็วของวัตถุที่เคลื่อนที่เป็นวงกลมจะมีค่าคงที่หรือเท่ากันตลอดการเคลื่อนที่
 เรียกการเคลื่อนที่วงกลมแบบนี้ว่า การเคลื่อนที่เป็นวงกลมสม่ำเสมอ (Uniform Circular Motion)


การเคลื่อนที่เป็นวงกลม ลักษณะการเคลื่อนที่ของวัตถุจะมี  แรงกระทำตั้งฉากกับเวกเตอร์ความเร็วเสมอตลอดการเคลื่อนที่ วัตถุจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ในแนววงกลม แต่ยังคงมีความเร่งเกิดขึ้น ซึ่งความเร่งจะขึ้นกับการเปลี่ยนเวกเตอร์ความเร็ว ซึ่งเวกเตอร์ความเร็วจะมีทิศสัมผัสกับเส้นทางการเคลื่อนที่ของวัตถุและมีทิศตั้งฉากกับแนวรัศมีวงกลม เรียกความเร่งชนิดนี้ว่า ความเร่งแนวสัมผัสวงกลม ( aT)  

เวกเตอร์ความเร่งในการเคลื่อนที่แบบวงกลมจะมีทิศตั้งฉากกับเส้นทางการเคลื่อนที่ของวัตถุและมีทิศพุ่งเข้าสู่จุดศูนย์กลางวงกลมเสมอ เราเรียกความเร่งนี้ว่า ความเร่งสู่ศูนย์กลาง  (ac )
  

 



คาบ (T)  คือ เวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ครบ 1 รอบ หรือ วินาทีต่อรอบ (s)
                    ความถี่  (f) คือ จำนวนรอบที่เคลื่อนที่ได้ในหนึ่งหน่วยเวลา หรือ รอบต่อวินาที  (Hz)




        เมื่อวัตถุเคลื่อนที่แบบวงกลมด้วยอัตราเร็วคงที่ คาบ และความถี่จะมีค่าคงที่ โดยคาบและความถี่สัมพันธ์กันโดย



 

             อัตราเร็วเชิงเส้น (v)   คือ ระยะทางตามแนวเส้นรอบวงของวงกลมที่วัตถุเคลื่อนที่ได้
                                                ในหนึ่งหน่วยเวลา ( m/s)

















ความเร่งสู่ศูนย์กลาง

       วัตถุที่เคลื่อนที่ เป็นวงกลมจะเกิดความเร่ง 2 แนว คือ ความเร็วแนวเส้นสัมผัสวงกลม และความเร่งแนวรัศมีหรือความเร่งสู่ศูนย์กลาง
           ถ้าวัตถุเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วคงที่ เช่น วงกลมในแนวระนาบ
จะเกิดความเร่งสู่ศูนย์กลางเพียงแนวเดียว

           การที่วัตถุมีอัตราเร็วเท่าเดิม แต่ทิศทางเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ย่อมหมายความว่า ต้องมีความเร็วอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย ความเร็วที่มาเกี่ยวข้องนี้จะพิสูจน์ได้ว่า มีทิศทางเข้าสู่จุดศูนย์กลางของการเคลื่อนที่ และความเร็วนี้เมื่อเทียบกับเวลาจะเป็นความเร่งซึ่งมีค่า 
       
.................................................................................


การหาแรงที่ทำให้วัตถุเคลื่อนที่แบบวงกลม
          
        จากกฎการเคลื่อนที่ ข้อที่สองของนิวตัน และการเคลื่อนที่แบบวงกลม แรงลัพธ์ที่มากระทำต่อวัตถุกับความเร่งของวัตถุจะมีทิศทางเดียวกัน คือทิศพุ่งเข้าหาจุดศูนย์กลาง ซึ่งเขียนเป็นสมการได้ว่า

.................................................................................


อัตราเร็วเชิงมุม (Angular speed)
         
           อัตราเร็วของวัตถุที่ เคลื่อนที่แบบวงกลมที่กล่าวมาแล้วนั้นคือความยาวของเส้นโค้งที่วัตถุเคลื่อน ที่ได้ในเวลา 1 วินาที ซึ่งเราอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อัตราเร็วเชิงเส้น (v)

           แต่ในที่นี้ยังมีอัตราเร็วอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นการบอกอัตราการเปลี่ยนแปลงของมุมที่จุดศูนย์กลาง เนื่องจากการกวาดไปของรัศมี ใน 1 วินาที เรียกว่า อัตราเร็วเชิงมุม (w) อ่านว่า โอเมก้า
นิยามอัตราเชิงมุม (w) คือ มุมที่รัศมีกวาดไปได้ใน 1 วินาทีมีหน่วยเป็น เรเดียน/วินาที
          การบอกมุมนอกจากจะมีหน่วยเป็นองศาแล้ว ยังอาจใช้หน่วยเป็นเรเดียน (radian) โดยมีนิยามว่า มุม 1 เรเดียน มีค่าเท่ากับมุมที่จุดศุนย์กลางของวงกลม ซึ่งมีเส้นโค้งรองรับมุมยาวเท่ากับรัศมี หรือกล่าวได้ว่ามุมในหน่วยเรเดียน คือ อัตราส่วนระหว่างส่วนเส้นโค้งที่รองรับมุมกับรัศมีของวงกลม

           ถ้า a คือ ความยาวองส่วนโค้งที่รองรับมุม
           r   คือ รัศมีของส่วนโค้ง
          q  คือ มุมที่จุดศูนย์กลางเป็นเรเดียน
 
           ความสัมพันธ์ระหว่างมุมในหน่วยองศากับเรเดียน
           เมื่อพิจารณาวงกลม พบว่ามุมรอบจุดศูนย์กลางของวงกลมเท่ากับ 360 องศา โดยส่วนโค้งที่รองรับมุมก็คือเส้นรอบวงนั้นเอง
 
            ดังนั้น สรุปได้ว่า มุม 360 องศา เทียบเท่ากับมุม 2p เรเดียน
เมื่อพิจารณาวัตถุเคลื่อนที่แบบวงกลมด้วยอัตราเร็วคงที่ครบ 1 รอบพอดี 
 


 
ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็วเชิงเส้น (v) และอัตราเร็วเชิงมุม (w)

การเคลื่อนที่ในแนวราบ
ตัวอย่างการเกิดการเคลื่อนที่เป็นวงกลมในแนวราบ 

            เชือกเบายาว L ปลายข้างหนึ่งติดวัตถุมวล m อีกปลายตรึงแน่นแกว่งให้วัตถุเคลื่อนที่เป็นวงกลมในแนวราบ รัศมี r ด้วยอัตราเร็วคงที่ v และเชื่อกทำมุม q กับแนวระดับดังรูป



          

     ขณะมวล m เคลื่อนที่เป็นวงกลมในแนวราบ ได้รับแรงกระทำ 2 แรงคือ แรงตึงเชือกและน้ำหนังของวัตถุ
เมื่อแตกแรงต่าง ๆ แล้วจะได้

 
       พิจารณาลูกกลมโลหะ ซึ่งเคลื่อนที่ตามรางเรียบรูปวงกลมในแนวดิ่ง   โดยเคลื่อนที่รอบด้านในของวงกลม เส้นทางการเคลื่อนที่ของ   ลูกกลมโลหะจะเป็นแนววงกลมในระนาบดิ่ง ทุก ๆ ตำแหน่งที่ลูกกลมโหละจะต้องมีแรงสู่ศูนย์กลาง เพื่อเปลี่ยนทิศทางความเร็วของลูกกลมโลหะ   ให้เคลื่อนที่เป็นวงกลม แรงสู่ศูนย์กลางนี้เกิดจากรางออกแรงดันลูกกลมโลหะ ซึ่งเป็นแรงปฏิกิริยาของรางที่โต้ตอบกับแรงที่ลูกกลมโลหะ
ออกแรงดันราง และแรงสู่ศูนย์กลางบางช่วงจะมาจากแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อลูกกลมโลหะ 

............................................................................

              ในกรณีลูกกลมโลหะมวล m อยู่ ณ ตำแหน่งล่างสุดของรางที่มีรัศมีความโค้ง r  ให้แรงที่รางดันลูกกลมโลหะในแนวตั้งฉากกับผิวของรางเท่ากับ F และแรงที่โลกดึงดูดลูกกลม คือ mg แรงลัพธ์ของแรงทั้งสองคือ แรงสู่ศูนย์กลาง


               ถ้าลูกกลมอยู่ ณ ตำแหน่งสูงสุด จะได้
 

 

การเคลื่อนที่บนทางโค้ง

     
          ขณะรถเลี้ยวโค้ง บนถนนโค้งราบ ซึ่งมีแนวทางการเคลื่อนที่ เป็นส่วนโค้งของวงกลมดังรูป ดังนั้นต้องมีแรงสู่ศูนย์กลางกระทำต่อวัตถุ 
         เมื่อพิจารณาแรงกระทำต่อรถในแนวระดับพบว่าขณะรถเลี้ยว พยายามไถลออกจากโค้ง จึงมีแรงเสียดทาน ที่พื้นกระทำต่อล้อรถในทิศทาง พุ่งเข้าในแนวผ่านศูนย์กลางความโค้ง
ดังนั้น แรงเสียดทาน = แรงสู่ศูนย์กลาง
 
ถ้ารถเลี้ยวด้วยอัตราเร็วสูงสุดได้ปลอดภัย


                                   
...........................................................................................................

การหามุมเอียงของรถจักรยานยนต์ขณะเลี้ยว
          ขณะเลี้ยวรถแรงกระทำต่อ รถมี mg, N และ f ซึ่งแรง N และ f รวมกันได้ เป็นแรงลัพธ์ R C.M. จะก่อให้เกิดโมเมนต์ ทำให้รถคว่ำขณะเลี้ยวดังรูป ถ้าไม่ต้องการให้รถคว่ำต้องเอียงรถ ให้จุดศูนย์กลางของมวล ผ่านแนวแรง R ขณะเลี้ยว รถจึงเลี้ยวได้โดยปลอดภัยไม่พลิกคว่ำดังรูป
                    
รูปแสดงแรงกระทำต่อรถจักรยานยนต์ขณะเลี้ยวบนถนนโค้งราบ
              ถ้าเลี้ยวรถรถด้วยอัตราเร็วสูงสุด พบว่า
 
               ไม่ว่ารถจักรยานยนต์เลี้ยวโค้งแล้วเอียงรถ หรือ รถจักรยานยนต์ เลี้ยวโค้งบนพื้นเอียงลื่น มุม q ที่เกิดจากการเอียงของทั้งสองกรณีคือมุมเดียวกัน ใช้สูตรเดียวกันคือ



                                                             



ตัวอย่างการเคลื่อนที่



 



โจทย์ปัญหาการเคลื่อนที่แบบวงกลม

ตัวอย่าง 1 ใน การแกว่งชุดการเคลื่อนที่ในแนววงกลม ด้วยอัตราเร็วคงที่ในแนวระดับ ปรากฎว่าเชือกทำมุม 30 องศา กับแนวระดับตลอดเวลา ถ้าน้ำหนักของขอเกี่ยวและนอตที่ใช้มีค่า 1 นิวตัน จงหาแรงสู่ศูนย์กลาง และความเร่งของวัตถุที่ปลายเชือก

แนวคิด เขียนรูป 1. วัตถุที่ปลายเชือกเคลื่อนที่แบบวงกลม
                       2.  ขอเกี่ยวและนอตสมดุล
                       3. ใส่แรงกระทำต่อวัตถุ และขอเกี่ยวกับนอต



 
           จากรูป พิจารณาที่ขอเกี่ยว เราพบว่า
                  
                       «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mtable columnalign=¨left¨ rowspacing=¨0¨»«mtr»«mtd»«mo»§#8721;«/mo»«mi»F«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mn»0«/mn»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»T«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»W«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mn»1«/mn»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»N«/mi»«/mtd»«/mtr»«/mtable»«/math»

            พิจารณาการเคลื่อนที่ในแนวระดับ (แกน x)

                «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mtable columnalign=¨left¨ rowspacing=¨0¨»«mtr»«mtd»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§#8721;«/mo»«msub»«mi»F«/mi»«mi»x«/mi»«/msub»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«msub»«mi»F«/mi»«mi»c«/mi»«/msub»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«mi»T«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»cos«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«msup»«mn»30«/mn»«mn»0«/mn»«/msup»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«msub»«mi»F«/mi»«mi»c«/mi»«/msub»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«msub»«mi»F«/mi»«mi»c«/mi»«/msub»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mn»0«/mn»«mo».«/mo»«mn»866«/mn»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»N«/mi»«/mtd»«/mtr»«/mtable»«/math»
           พิจารณาการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง (แกน y)

                        «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mtable columnalign=¨left¨ rowspacing=¨0¨»«mtr»«mtd»«mo»§#8721;«/mo»«msub»«mi»F«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mn»0«/mn»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»mg«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»T«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»sin«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«msup»«mn»30«/mn»«mn»0«/mn»«/msup»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»m«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mfrac»«mn»1«/mn»«mn»20«/mn»«/mfrac»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»kg«/mi»«/mtd»«/mtr»«/mtable»«/math»
           หาความเร่งสู่ศูนย์กลางจาก

                     «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mtable columnalign=¨left¨ rowspacing=¨0¨»«mtr»«mtd»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«msub»«mi»F«/mi»«mi»c«/mi»«/msub»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«msub»«mi»ma«/mi»«mi»c«/mi»«/msub»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«mn»0«/mn»«mo».«/mo»«mn»866«/mn»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mfenced»«mfrac»«mn»1«/mn»«mn»20«/mn»«/mfrac»«/mfenced»«msub»«mi»a«/mi»«mi»c«/mi»«/msub»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«msub»«mi»a«/mi»«mi»c«/mi»«/msub»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mn»17«/mn»«mo».«/mo»«mn»32«/mn»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»m«/mi»«mo»/«/mo»«msup»«mi»s«/mi»«mn»2«/mn»«/msup»«/mtd»«/mtr»«/mtable»«/math»
ดังนั้น  แรงสู่ศูนย์กลางมีค่า 0.866 นิวตัน และความเร่งสู่ศูนย์กลางของวัตถุมีค่า 17.32 เมตรต่อวินาที2







ตัวอย่าง 2 จาก รูปวัตถุมวล 0.2 กิโลกรัมผูกปลายเชือกยาว 2 เมตร แล้วแกว่งเป็นวงกลมสม่ำเสมอในระนาบระดับ ถ้าเชือกทำมุม 37 องศากับแนวดิ่งตลอดเวลา อยากทราบว่าวัตถุจะเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วเชิงมุมเท่าใด

 
แนวคิด เขียนรูปแสดงองค์ประกอบของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ดังภาพ
           พิจารณาในแนวระดับ (แกน x)
            
                             «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8721;«/mo»«msub»«mi»F«/mi»«mi»x«/mi»«/msub»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«msub»«mi»F«/mi»«mi»c«/mi»«/msub»«/math»
                              «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mtable columnalign=¨left¨ rowspacing=¨0¨»«mtr»«mtd»«mi»T«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»sin«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«msup»«mn»37«/mn»«mn»0«/mn»«/msup»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mfrac»«msup»«mi»mv«/mi»«mn»2«/mn»«/msup»«mi»r«/mi»«/mfrac»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«msup»«mi»m§#969;«/mi»«mn»2«/mn»«/msup»«mi»r«/mi»«/mtd»«/mtr»«/mtable»«/math»XXXXXXXX(1)
พิจารณาในแนวดิ่ง (แกน y)

                       «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mtable columnalign=¨left¨ rowspacing=¨0¨»«mtr»«mtd»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»§#8721;«/mo»«msub»«mi»F«/mi»«mi»y«/mi»«/msub»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mn»0«/mn»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«mi»T«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»sin«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«msup»«mn»37«/mn»«mn»0«/mn»«/msup»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»mg«/mi»«/mtd»«/mtr»«/mtable»«/math»XXXXXXXXXX(2)
(1)/(2)  จะได้

                      «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mi»tan«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«msup»«mn»37«/mn»«mn»0«/mn»«/msup»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mfrac»«mrow»«msup»«mi»§#969;«/mi»«mn»2«/mn»«/msup»«mi»r«/mi»«/mrow»«mi»g«/mi»«/mfrac»«/math»
 จากรูปเราพบว่า «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mi»r«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mn»2«/mn»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»sin«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«msup»«mn»37«/mn»«mn»0«/mn»«/msup»«/math» ดังนั้น
                                                          «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mtable columnalign=¨left¨ rowspacing=¨0¨»«mtr»«mtd»«mfrac»«mn»3«/mn»«mn»4«/mn»«/mfrac»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mfrac»«msup»«mi»§#969;«/mi»«mn»2«/mn»«/msup»«mn»10«/mn»«/mfrac»«mfenced»«mrow»«mn»2«/mn»«mo»§#215;«/mo»«mfrac»«mn»3«/mn»«mn»5«/mn»«/mfrac»«/mrow»«/mfenced»«/mtd»«/mtr»«mtr»«mtd»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»§#969;«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»=«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mn»2«/mn»«mo».«/mo»«mn»5«/mn»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»rad«/mi»«mo»§nbsp;«/mo»«mo»/«/mo»«mo»§nbsp;«/mo»«mi»s«/mi»«/mtd»«/mtr»«/mtable»«/math»
 

ดังนั้น วัตถุเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วเชิงมุม 2.5 เรเดียนต่อวินาที